ภูมิแพ้เป็นอาการที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันทำงานไวเกิน จนมักทำให้เกิดอาการต่างๆ ที่พบบ่อยคือ การสัมผัสกับสารก่อให้เกิดการแพ้ ทำให้เกิดอาการทางผิวหนังเช่น ผื่นแพ้ ลมพิษ และอาการคัน

นอกจากนั้น การที่ผิวแห้งทำให้ไขมันที่ชั้นผิวน้อยเกินไป อาจทำให้เกิด “ผื่นผิวหนังอักเสบจากการสัมผัส” ที่เรียกว่า Contact Dermatitis ได้ เมื่อเกิดผื่นแพ้บริเวณหนังศีรษะ

ถ้าไปสัมผัสก็จะเกิดอาการคัน และเมื่อยิ่งเกายิ่งลุกลามมากขึ้น อันเป็นสาเหตุของการหลุดร่วงของเส้นผมได้

บางครั้งอาจพบอาการรูขุมขนอักเสบร่วมด้วย ที่เรียกว่า “ต่อมขนอักเสบ” หรือ “Folliculitis” ทำให้เกิดการหลุดร่วงของเส้นผมมากขึ้น และการสร้างเส้นผมใหม่ขึ้นมาทดแทนอาจจะช้าลง

สาเหตุอาจมาจาก มีอาการคันบริเวณหนังศีรษะแล้วเกา ทำให้เกิดรอยแผลเปิดแล้วติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราซ้ำซ้อน ทำให้เกิดการอักเสบของต่อมขนได้

ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ระคายเคืองกระตุ้นอาการคันบริเวณหนังศีรษะ มาจากแชมพูและครีมนวดผม และผลิตภัณฑ์ใส่ผม ที่มีส่วนผสมสารเคมีที่ระคายเคืองต่อหนังศีรษะ

นอกจากนี้ยาย้อมผมปิดผมขาว ที่มีส่วนผสมของ “Paraphenylenediamine” ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดสีดำ ซึ่งพบว่าสารดังกล่าวมักกระตุ้นการเกิดอาการคัน

และอาการผิวหนังอักเสบจากการสัมผัส (Contact dermatitis) อันเป็นสาเหตุหนึ่งของการทำให้เกิดผมร่วงได้

สารเคมีอีกชนิดหนึ่งที่อาจพบได้ในยาทารักษาผมร่วงในกลุ่ม Minoxidil คือสารที่ชื่อว่า Propylene glycol ทำให้บางครั้งในกลุ่มคนไข้ที่มีอาการแพ้ที่หนังศีรษะ

และซื้อยา Minoxidil มาใช้เอง แต่ไม่ได้ดูส่วนประกอบ บางครั้งตนเองอาจแพ้ Propylene glycol ซึ่งเมื่อใช้ยาแล้วอาการอาจจะแย่ลงจากสารดังกล่าวได้

คำแนะนำ -1

การดูแลเส้นผมในคนที่เป็นภูมิแพ้ผื่นแพ้หนังศีรษะ

*ควรสระผมอย่างสม่ำเสมอ วันละ 1 ครั้ง

* เลือกใช้แชมพูที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่ระคายเคืองและกระตุ้นให้เกิดการแพ้เช่น สารโซเดียมลอริล ซัลเฟต (SLS), สารกันเสียพาราเบน (Paraben) , สารเคลือบผมซิลิโคน (Silicone) เป็นต้น

คำแนะนำ -2

* ไม่ควรเกาหนังศีรษะเมื่อเกิดอาการคัน เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อที่ต่อมขนมากขึ้นทำให้ผมร่วงมากขึ้นกว่าเดิม

* ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยต่อไป

อ่านบทความอื่นๆ ได้ ที่นี่